ฉันเกิดมาในครอบครัวที่พร้อมทุกอย่าง มีพ่อ มีแม่ มีน้องชาย ... เรามีพร้อม..
ครอบครัวฉันเป็นครอบครัวข้าราชการ พ่อแม่ค่อนข้างเข้มงวด ฉันพยายามทำทุกอย่างให้ชีวิตตัวเองและครอบครัวสมบูรณ์แบบ .. พอมีเรื่องที่ต้องเครียด ครอบครัวเราจะหัวเสียมาก... อับอาย คำนี้พวกเราไม่ต้องการ ฉันไม่เข้าใจชีวิตตัวเองเหมือนกัน พ่อแม่อยากให้ฉันและน้องชายเป็นข้าราชการ พวกเราตั้งใจพยายามเต็มที่ กดดัน เครียด ทั้งที่อายุยังน้อย ฉันสอบเข้าเรียนเป็นนักเรียนพยาบาล ซึ่งเหมือนจะไปได้ดีถ้ามองจากคนอื่นๆ แต่ความจริงแล้ว ฉันไม่อยากเป็นเลยสักนิด ฉันอยากมีอาชีพที่อิสระ พอตัวสำหรับฉัน มีชีวิตง่ายๆฟรีๆ ฉันเลยเลือกที่จะไปค่ายอาสา หรือค่ายต่างๆเพื่อหนีความวุ่นวาย ความกดดันในชีวิตครอบครัว พอได้ไปเห็นชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้านที่เคยไปทำค่าย ฉันต้องย้อนมาดูตัวเองเสมอว่า ฉันก็มีพร้อมนะ ทำไมฉันไม่มีความสุขเลย เพราะฉันเรียนในวิชาที่ไม่ถนัดหรอ ก็ไม่.. ฉันทำได้ แต่พอย้อนไปมองลึกๆ ครอบครัวของฉันกดดันมากกว่า เรามักจะทะเลาะกันในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เพราะต่างฝ่ายต่างมองว่าตัวเองถูกเสมอ เพราะแบบนี้สินะ ทุกครั้งที่ฉันกลับมาบ้านต้องทะเลาะและมีปากเสียงกันแทบทุกวัน ทำให้ฉันไม่อยากอยู่บ้านเลย .. ส่วนน้องชายฉันเรามักจะระบายเรื่องที่บ้านให้ฉันฟังบ่อยๆเพราะเราต่างก็รู้ดีในเรื่องของปัญหาภายในบ้าน น้องชายฉันและฉันเราอายุห่างกันไม่มาก เป็นหนุ่มสาวทั้งคู่ พูดง่ายๆคือหัวปีท้ายปี ตอนเป็นเด็กเราทะเลาะกันบ่อยตามประสาเด็กๆ แต่โตมาเราคิดเองได้เพราะเป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้ว เป็นธรรมดาที่เราต้องอายชาวบ้านคนอื่นๆ น้องชายฉันเป็นคนเรียนปานกลางสอบคณะรัฐศาสตร์ได้ แต่พ่อไม่ให้เรียนด้วยเหตุผลที่ว่า จบมาแล้วทำงานอะไร พ่อเลยให้ไปสอบทหาร หรือไม่ก็ตำรวจ.. (ฉันเบื่อความคิดของผู้ใหญ่แบบนี้มากๆ) น้องชายฉันเลยต้องไปสอบตามพ่อแม่แนะนำ สุดท้ายก็ได้ที่หนึ่งแต่ก็ต้องออกมาเพราะฝึกหนักมาก ช่วงแรกๆพ่อโกรธน้องชายมาก ฉันพยายามอธิบายให้พ่อฟัง "ก็น้องมันไม่ชอบ มันไม่ไหว ให้มันออกมาดีแล้ว" จนตอนนี้มันได้เรียนคณะหนึ่ง ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แต่พ่อก็ให้เรียนไปก่อน ถ้ามีประกาศรับสมัครทหาร หรือตำรวจ ก็จะให้มันออกมาแล้วสมัคร ... ฉันมาคิดดูอีกที ทำไมชีวิตฉันเศร้าแบบนี้นะ พร้อมทุกอย่าง แต่ไม่ได้เรียนอะไรที่ตนเองชอบ ทำไมผู้ใหญ่มีหัวคิดโบราณแบบนี้ด้วย .. ทุกครั้งฉันกับน้องจะระบายผ่านแชทเฟสบุ๊ค หรือไม่ก็ไลน์คุยกัน เพราะชื่อเสียง หรือเพราะอำนาจหรอ ... เฮ้อ มีครั้งหนึ่ง น้องชายฉันจะรับน้อง แต่แม่กับพ่อเรียกตัวให้มันกลับบ้านเพราะจะคุยกับผู้ใหญ่เรื่องสอบทหาร ฉันเลยพูดกับพ่อและแม่เลยว่า "หยุดเลย ให้มันไปรับน้อง ชีวิตวัยรุ่น ชีวิตมหาลัย ทำไมต้องให้จมปรักกับว่าข้าราชการด้วย อย่าเอาตัวเองเป็นพื้นฐาน" ฉันพูดได้แค่นี้ สุดท้ายน้องชายฉันก็ไปรับน้อง แต่ก็กลับบ้านวันนั้นแหละ พูดง่ายๆ พ่อแม่ฉันต้องให้มันกลับบ้านจนได้ ฉันสงสารน้องชายจริงๆ ... สำหรับฉัน ฉันโอเคแล้วละฉันเรียนได้แต่ให้ทำงานฉันต้องคิดดูอีกที ทุกวันนี้ต้องมานั่งดูซีรีย์เกาหลีเพื่อบิ้วอารมณ์ตัวเอง ฉันพยายามทำให้ตัวเองรักและชอบในสิ่งที่เรียน ถ้าเกิดไม่ได้จริงๆก็เก็บตังค์แล้วหางานในสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะจะปี3 ออกตอนนี้ก็ไม่อยากเริ่มต้นใหม่ ส่วนน้องชายฉันคิดว่าให้มันตามทางของมันแหละ เพราะมันก็ชอบอยู่บ้าง เพียงแต่สอบในสิ่งที่ต้องการไม่ได้สักที คือต้องพยายามต่อไป ส่วนพ่อแม่... ไม่รู้สิ เป็นลูก พูดได้แค่นี้จริงๆ สุดท้าย ฝากถึงทุกๆคน เราไม่ชอบอะไร อย่าไปบังคับให้เขาทำเลย เราไม่ชอบกินทุเรียนแต่ก็ฝืนหรือบังคับให้คนอื่นกิน เหมือนชีวิตเราแหละ ถ้าฉันมีครอบครัว มีลูก ฉันจะไม่ทำแบบนี้แน่นอน..
			
			
									
									
						อายุยังน้อยแต่ทำไมต้องแบกภาระไว้
- 
				Milkberry
 
Re: อายุยังน้อยแต่ทำไมต้องแบกภาระไว้
ใจเย็นๆสู้ๆ มันต้องค่อยๆมองอย่าคิดว่าตัวเองต้องแบกรับภาระ คิดให้เป็นเรื่องสนุกสู้ๆนะ เป็นกำลังใจให้
			
			
									
			Bumped ล่าสุดโดย Anonymous on 19 เม.ย. 2019 23:42.