แบ่งพรรคพวกในที่ทำงาน

เรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้ เล่าที่นี่ได้
หรือเราเองที่ผิด

แบ่งพรรคพวกในที่ทำงาน

โพสต์ โดย หรือเราเองที่ผิด »

เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้นะครับได้เข้าทำงานเป็นกะเช้า เวลา09.00น เป็นงานเกี่ยวกับการฉายภาพยนตร์ วันนี้ได้เข้ากะกับเพื่อนร่วมงานคนหนึง นามสมมุติ(นายA) หลังจากที่ตรอกบัตรอะไรเรียบร้อย หน้าที่ต่อไปคือ เปิดเบรกเกอร์ไฟและแอร์ ซึ่งปกติ จะเปิดทุกโรง เพื่อให้พนักงานด้านล่างได้ทำการเช็คความเรียบร้อยภายในโรง ซึ่งตอนเ้ช้าจะมีหน้าที่แค่ตรงนี้ เพื่อรอฉายหนัง(ถ้าไม่มีงานอะไรเพิ่มนะครับ) ซึ่งนายAเนี้ย ทำการเปิดเบรกเกอร์ที่โรงหนึงเสร็จแล้ว ซึ่งตอนนั้นตัวผมได้เอาของไปเก็บอะไร แล้วก็ทำการเปิดเบรกเกอร์อีกฝั่งหนึง ซึ่งระหว่างที่เปิดผมก็คิดว่า เดี๋ยวฝั่งโน้น นายAก็เปิดเสร็จ ซึ่งผมเปิด4โรงเสร็จ พอหันมาทางฝั่งนี้ กลับยังไม่เปิด ผมก็เลยไปเปิด ซึ่งผมเห็นเขาทำอะไรไม่รู้อยู่บริเวณนั้น ซึ่งปกติแล้ว ไม่ต้องทำอะไร แค่เปิดเบรกเกอร์ ผมก็คิดว่าทำไมถึงไม่เดินมาสักที ทั้งๆที่ผมก็ทำอะไรเสร็จ แต่เขาก็ทำอะไรไม่รู้ ผมก็ไม่ได้ิคิดอะไรมาก แต่อารมณ์เริ่มไม่ดีแล้ว เลยโพสข้อความลงเฟส พอตกเย็น นายA ใช้โน็ตบุคของเพื่อนร่วมงานอีกคนหนึงเข้าไปทำธุระอะไรสักอย่าง แล้วดันไปเจอครับ แล้วก็กลายเป็นเรื่อง ก็คุยเคลียร์กัน
นายA : โพสอะไรลงในเฟส ว่าดึงเกมอะไร แค่เปิดเบรกเกอร์6โรงแค่นี้เหนื่อยหรอ
ผม : เปล่า ไม่เหนื่อยอะไรหรอกแค่เปิดเบรกเกอร์ แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงทำแบบนั้น
นายA : ทีคนอื่นมาก่อนมาเปิดก่อนตลอดไม่เห็นเคยบ่นเลย (ผมมาก่อนทุกครั้ง และ เป็นคนเปิดเองตลอด และผมไม่ค่อยได้เข้ากะกับนายAบ่อย )
ประเด็นของเขาคือ มาก่อนผม แล้วก็ทำการเปิดเบรกเกอร์ แล้วผมมาทีหลัง ซึ่งเข้าเปิดอะไรเรียบร้อยแล้ว
ประเด็นผมคือ ผมมา แล้วเจอนายA แล้วกำลังทำหน้าที่ด้วยกัน
ผม : มันหลายครั้งแล้วไง (หลายครั้ง ไม่ได้หมายถึง การเปิดเบรกเกอร์ แต่หมายถึงเรื่องอื่นๆรวมๆกันที่อยู่ในข่าย)
นายA : ถ้าทีหลังไม่อยากเปิดก็ปล่อยเลย เดี๋ยวคนอื่นเขาเปิดเองเหละ (ถ้าไม่เปิดไว้ แล้วพนักงานข้างล่าง หรือ แม่บ้านจะมองเห็นและทำงานได้ยังไง เวลาฉายเริ่มต้น อาจจะสัก10.30 เกิดรอคุณเปิดสมมุติตอน10.00 พนักงานที่ทำงานข้างล่างก็ไม่ต้องทำอะไรงั้นละสิ ผมถึงต้องเปิดไว้ทันที)
ผม : ก็ไม่คิดอะไรไง เห็นว่าอยู่ด้วยกัน ทำงานด้วยกัน แค่สงสัยว่าเพราะอะไรแค่นั้นเอง
นายA : อ๋อ... นึกว่ากลัวเหนื่อย (คำว่า อ๋อ...ลากเสียงเหมือนแหนบๆ)
นี่ก็เป็นบทสนทนาครับ ยังมีเรื่องอีกหลายเรื่องครับ ไม่ว่าจะเป็นการตีเนียน ตีมึน ทำไม่รู้
ถ้าไม่มาเจอในเฟสก็คงจะมึนต่อไป แต่พอมาเจอ ก็ูพูดแค่ว่า "มีอะไรก็มาคุยต่อหน้าสิ ไม่พอใจอะไร" แต่ถ้าตอนดีๆพูดกัน ก็ด่ากันครับ

ผู้อ่านก็ลองพิจรณา ใช้วิจราณญานในการไตร่ตรองด้วยนะครับ บางทีผมก็อาจจะผิดก็ได้ครับ ไม่เป็นผมก็ไม่มีใครรู้หรอกครับ แล้วผมอาจจะผิดโดยไม่รู้ตัวก็ได้


Bumped ล่าสุดโดย Anonymous on 19 เม.ย. 2019 22:02.