การแต่งงงานไม่ใช่บทสรุปของความรักเสมอไป

ตอบกระทู้

รหัสยืนยัน
ให้พิมพ์รหัสตามที่เห็นในรูปภาพ กรุณาพิมพ์ตัวอักษรเล็ก-ใหญ่ให้ถูกต้อง และไม่มีเลขศูนย์
รูปแสดงอารมณ์
:D :) ;) :( :o :shock: :? 8-) :lol: :x :P :oops: :cry: :evil: :twisted: :roll: :!: :?: :idea: :arrow: :| :mrgreen: :geek: :ugeek:

BBCode เปิด
[img] เปิด
[flash] ปิด
[url] เปิด
[Smile icon] เปิด

กระทู้แนะนำ
   

มุมมองที่ขยายได้ กระทู้แนะนำ: การแต่งงงานไม่ใช่บทสรุปของความรักเสมอไป

การแต่งงงานไม่ใช่บทสรุปของความรักเสมอไป

โดย คีตรา » 20 เม.ย. 2019 12:20

เราแต่งงานกับแฟนมา 1 ปี มันเหมือนจะมีความสุขอย่างที่คนอื่นคิดนะแต่ว่าชีวิตเราน่ะยิ่งกว่าละครอีก แต่งงานกับลูกคนมีฐานะที่จริงมันน่าจะเหมือนฝันนะสำหรับฉัแต่ว่าไม่ใช่เลยครอบครัวเราสองคนต่างกันเราพ่อแม่หาเช้ากินค่ำ ส่วนเขาพ่อแม่นั่งปล่อยเงินกู้นั่งสบายๆไปวันๆ เราเป็นคนที่รักครอบครัวเรามาก พอเราแต่งงานกับเขาเรามาอยู่ในบ้านเขาอย่างสบายๆ แต่ว่าพ่อแม่เรากำลังลำบากเราคิดถึงพ่อแม่เรามาก เราอยากให้พ่อแม่เราสบายแต่ว่า พวกบ้านเขาไม่ยอมให้เราออกไปทำงานเหมือนคนอื่น ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ เราชอบที่จะกลับบ้านทุกเสาร์อาทิตย์เพื่อมาช่วยแม่ คนแถวบ้านเราบอกว่าพ่อแม่สบายแล้วซิเราก็ได้แต่ยิ้มๆ สินสอดทองมั่นพ่อแม่เรายกให้เราหมดไม่มีการเอาของเราไปใช้เลยทั้งที่เราก็ทิ้งสมุดบัญชีทิ้งบัตรไว้ให้กดใช้แต่ว่าเราไปเช็คทีไรพ่อแม่ก็ไม่เคยเอาของเราออกมาใช้เลย บอกแต่เพียงว่ามันเป็นของเรา เราอึดอัดนะที่อยู่ในบ้านที่ไม่ทำอะไรเลยคนแถวหมู่บ้านก็นินทาบ้านแฟนเราให้เราฟังว่า ขายของผิดกฎหมายบ้าง โกงเขามาบ้างแต่เราก็ได้แค่ฟังผ่านๆ เราไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวเรื่องเงินทองของเขาเลย จนมีวันนึงเราเล่นเฟสกับพี่ชายเราปกติเราก็คุยกันเหมือนแฟนอยู่แล้วอีกอย่างพี่คนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องซึ่งเราไม่เคยเล่าให้แฟนเราฟังเลยพอเเฟนดูแชทที่เราคุยกับพี่เขาก็โทรมาบอกเลิกเราทันทีพ่อเขาเรียกให้เรากลับบ้านด่วนเืพ่อมาเคลียร์กัน แต่แฟนไม่ยอมฟังอะไรเลยเอาแต่ว่าเรามีชู้ เขาอยากจะเลิกกับเราอย่างเดียวเลย ณ ตอนนั้นเราก็โอเคเลิกก็เลิกเรากลับมาบ้านกับพ่อแม่เราคืนนั้นเราร้องไห้หนักมากๆมีพ่อแม่คอยปลอบเราอยู่แทบทั้งคืน แม่บอกว่าร้องออกมาให้หมดพรุ้งนี้ห้ามร้องอีกแล้ว เราก็เชื่อแม่เช้าต่อมาเราไปเก็บของที่บ้านแฟนกับแม่เรา ในใจเราก็แค่คิดว่า ชาตินี้เราทำบุญมาแค่นี้แหละ เรากลับมาอยู่ที่บ้านเราเกือบ 6 เดือนตอนที่เรากลับมาอยู่บ้านเรารู้สึกว่าเราสบายใจมากที่ได้กลับมาอยู่แบบเดิมเราไม่เศร้าด้วยไม่เหมือนคนที่โดนสามีบอกเลิกเลยเพราะเราคิดแค่ว่า เราทำบุญด้วยกันมาแค่นี้ เราทำตัวสดใสเหมือนเดิม ใครถามเราก็บอกว่า เลิกกันแล้วเราไม่เศร้าเลยซักนิด แล้วก็เหมือนนิยายน้ำเน่า เราเพิ่งมารู้ว่าเราท้อง 6 เดือน ประมาณนั้นเพราะว่าเราสังเกตว่าตัวเรากินเยอะขึ้น แต่ประจำเดือนก็มาปกติตรงทุกครั้งแต่มาน้อยหน่อย เราก็ไม่ได้อะไรเราไม่รู้คิดยังไงเราก็เลยให้แม่พาไปตรวจ หมอบอกว่าท้อง เท่านั้นแหละเราแทบทรุด ที่แทบทรุดน่ะไม่ใช่ว่าเราทำใจไม่ได้นะ แต่ว่าเราไม่อยากให้ลูกมีตราปาบว่าไม่มีพ่อ เราไปหาเขาอีกครั้งหลังจากที่เราไม่ได้เจอกัน 6 เดือน เราบอกเขาว่าท้อง เขาก็ไม่รับบอกว่าออกไปตั้งนานแล้วจะมาท้องได้ไง เราเลยไปคุยกับหมอเพื่อตรวจว่าท้องกี่เดือนกันแน่หมอนับให้อย่างละเอียดเลยสรุปเราท้องก่อนที่จะออกจากบ้านแฟนมาด้วยซ้ำที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้นคือ ตอนที่เราไปบอกว่าท้องเขากลับไม่รับ แต่พอเราคลอดลูกเขากลับบอกว่าจะเอาลูกเรา เรางงมากบ้านเราไม่มีใครให้เลยบอกว่าทีให้รับเป็นพ่อกับไม่รับแต่เสือกจะมาเอาไปเลี้ยงทำไม เราเบ่งแทบตายอยู่ๆจะมาขอไปง่ายๆแถมโทรมาขอลูกเรากับป้าเราอีก จนทุกวันนี้เรื่องก็ไม่จบง่ายๆเขาจ้องจะเอาลูกเราแต่ว่าก็ติดตรงที่ทุกอย่างเราเป็นคนเดินเรื่องกับพ่อแม้เองหมดไม่มีชื่อเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ทุกวันนี้ลูกเราได้ 3เดือนแล้วกำลังอ้อแอ้เลยลูกหน้าตาเหมือนเขามากเรากับที่บ้านช่วยกันเลี้ยงเองให้ความรักเติมส่วนที่ขาดหายไปให้ไม่ตามใจจนเกินเหตุเราจะบอกรักลูกทุกวันเพื่อให้เขารู้ว่าเขาไม่เคยขาดเลยเราทำหน้าที่พ่อกับแม่ในคนๆเดียวเราไม่เคยเสียใจเลยที่ชีวิตเป็นแบบนี้เราอยู่ได้เพราะว่ามีพ่อแม่มีครอบครัวที่ให้กำลังใจเสมอเราว่าชีวิตเราน่ะอยู่แบบนี้ก็สมบูรณืแบบแล้ว (ขอโทษนะค่ะทียาวไปแต่ว่าเราอยากให้คนที่กำลังคิดว่าชีวิตนี้แย่แล้วบางทีอาจมีคนบางคนที่กำลังแย่กว่าตัวคุณก็ได้) ขอบคุณค่ะ

ข้างบน