พ่อแม่เลิกกันนานแฃ้ว

ตอบกระทู้

รหัสยืนยัน
ให้พิมพ์รหัสตามที่เห็นในรูปภาพ กรุณาพิมพ์ตัวอักษรเล็ก-ใหญ่ให้ถูกต้อง และไม่มีเลขศูนย์
รูปแสดงอารมณ์
:D :) ;) :( :o :shock: :? 8-) :lol: :x :P :oops: :cry: :evil: :twisted: :roll: :!: :?: :idea: :arrow: :| :mrgreen: :geek: :ugeek:

BBCode เปิด
[img] เปิด
[flash] ปิด
[url] เปิด
[Smile icon] เปิด

กระทู้แนะนำ
   

มุมมองที่ขยายได้ กระทู้แนะนำ: พ่อแม่เลิกกันนานแฃ้ว

Re: พ่อแม่เลิกกันนานแฃ้ว

โดย beemmii » 28 เม.ย. 2020 22:33

สู้ๆนาะค่ะ ทุกๆชีวิตล้วนมีปัญหากันทั้งนั้นค่ะ
แต่ชีวิตก็ต้องมีวันพรุ่งนี้เสมอ :geek:

>> เลขดัง

Re: พ่อแม่เลิกกันนานแฃ้ว

โดย เป็นหนี้ » 25 มี.ค. 2020 20:42

เข้ามาปลอบนะ เราเองก็เป็นแบบนี้เหมือนกันค่ะ พ่อกับแม่เลิกกัน แต่ไม่คุยกันแล้วให้เราเป็นตัวกลางเวลาคุยเรื่องเงิน เราอยู่กับทางฝั่งแม่เวลาคุยกับพ่อส่วนใหญ่ก็เลยเป็นเรื่องเงิน ซึ่งบางทีก็ขอได้บ้างไม่ได้บ้าง มักจะมีเรื่องให้บ่างเบี่ยงที่จะส่งเงินมาให้อยู่ตลอด แล้วพอขอไม่ได้เราก็จะโดนแม่ด่าเหมือนเป็นที่รองรับอารมณ์แทน คนจะไม่ให้เราทำอะไรไม่ได้หรอก เราเข้าใจนะความประสาทแดกที่เป็นตัวกลางคอยไกล่เกลี่ยมันเป็นยังไง ก็เคยบอกให้ไปคุยกันเองอยู่นะ แต่สุดท้ายเราก็เป็นคนกลางแล้วก็ประสาทแดกต่อไป เพราะคุยกันแล้วทะเลาะกันแทน ถึงตอนนี้จะเบาลงเยอะแล้วล่ะนะ แต่ช่วง 4-5 ปีก่อนคืออยู่บ้านแล้วอึดอัดพอควรเลย แต่พอออกมาอยู่ข้างนอกตอนเข้ามหาลัยมันก็ดีขึ้น เรื่องค่าเทอมเนี่ยเรากู้ กรอ เอาค่ะ เพราะไม่มีใครที่จ่ายให้เราได้เลย แต่มันก็ดีนะ ไม่ต้องมานั่งเครียดว่าเขาจะหาเงินได้หรือไม่ได้ จะโดนเหวี่ยงไหม

อดทนอีกหน่อยนะ ถ้าคุณเรียนจบมีงานทำแล้วมันจะดีขึ้นแน่ๆค่ะ :D

พ่อแม่เลิกกันนานแฃ้ว

โดย [--------] » 20 มี.ค. 2020 18:51

พ่อแม่เลิกกันนานแล้ว
คือเราก็อายุจะ 18 แล้วค่ะ ส่วนพ่อกับแม่เลิกกันตั้งเเต่เราอายุ 12 ตั้งเเต่นั้นแม่เราเลยรับภาระหนักขึ้น โดยครอบครัวเราที่เหลืออยู่ก็คือ แม่ ยาย ตา แล้วก็ ลุง
ลุงเราพอแต่งงานแล้วมีลูกก็เลยแยกตังออกไป ก็เลยไม่ค่อยได้ช่วยค่าใช้จ่ายอะไรในทางนี้เท่าไหร่ ในทางตากับยายเราก็ออกขายของที่ตลาดเฉพาะวันเสาร์กับวันอาทิตย์
ส่วนแม่เราก็ทำงานเป็นแอดมินเพจศัลยกรรม โดยไปทำงานที่รังสิต และบ้านอยู่ที่บ้านกล้วย ไทรน้อย แม่ไปทำงานประมาณ 11 โมงของทุกวัน จะหยุดประจำวันจันทร์ ส่วนรายได้ก็ไม่ได้มากมายขนาดนั้น แต่จะได้มากก็คือค่าคอมในแต่ละเดือน ขึ้นอยู่กับว่า แม่ได้ลูกค้ากี่คน ส่วนยายกัยตาก็ได้รายได้ไม่เคยพอใช้เท่าไหร่ ตัวเราก็เรียนอยู่ที่ วิทยาลัยแห่งหนึ่ง โชคดีที่ทางวิทยาลัยมีทุน ทำให้จ่ายค่าเทอมแค่ 2,000 แต่ว่าที่เรียนมันก็อยู่ไกลมากจากบ้าน วันนึงเลยใช้ตังเกือบ 300 บาท รวมค่าข้าวเช้า กลางวัน เย็น
ส่วนทางพ่อนั้น ก็ยังติดต่อกับเราอยู่ค่ะ ทุกๆเดือนเขาจะโอนเงินมาให้เดือนละ 3,000 บาท และบางอาทิตย์ที่มีหยุด ก็จะรับไปนอนที่บ้านของเขาบ้างเป็นครั้งเป็นคราว
แต่เรื่องมันมาอยู่ที่ตอนนี้ค่ะ เรากำลังจะขึ้น ปวช. ปี 2 ค่าเทอมคือ 4,800 บาท ทางพ่อที่พึ่งซื้อบ้านใหม่ก็ยังไม่มีตังมาให้ส่งเรียน พ่อกับแม่เราก็เลยให้ถามย่า หรือก็คือ แม่ของพ่อเรานั่นเอง ซึ่งเขาพึ่งกลับไปใต้หวันได้เดือนกว่าๆ ในจังหวะที่เกิดโควิทพอดี ทำให้ที่ร้านขสายไม่ค่อยดี เราก็เลยถามย่าว่ามีเงินพอส่งเรียนมั้ย ย่าก็บอกเราว่ามี ย่าก็เลยส่งค่าเทอมมาให้เลย ทำให้ตอนนี้เราก็จ่ายคาเอทมไปเรียนร้อยแล้ว
เราไม่ชอบเวลาไปเป็นสะพานให้พวกเขาเวลาจะคุยกันในแต่ละที พอจะคุยกันต่างฝ่ายต่างโมโห พอโมโหแล้วเราเป็ยคนกลางในการสนทนาของพวกเขา พวกเขาก็จะมาโมโหใส่เราค่ะ ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจ เลิกกันแล้วคุยกันเองไม่ได้หรอ ไม่ใช่ว่ากลับไปคุยกัน แต่คุยกันแค่เรื่องสำคัญไง ไม่เข้าใจหรอ ถ้ายังมีคนอื่นที่เป็นแบบเราอ่ะ ความรู้สึกเป็นคนกลางระหว่างพ่อกับแม่อ่ะค่ะ มันรู้สึกยังไงเข้าใจบ้างมั้ย ก็เข้าว่าทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีเงิน มันจะชอบเป็นแบบ " ถ้าแม่บอกว่าไม่มีเงินเหมือนพ่อบ้างล่ะ พ่อจะโอเคมั้ย "
ทำไมจะชอบถามแบบนี้ มันทำไม เราก็เข้าใจทั้งคู่แหละ จะให้เราทำยังไงอ่ะคะ ส่วนย่าทุกคนคงคิดว่าดีสินะคะ ป่าวค่ะ ย่าทิ้งเราไปตั้งเเต่เรายังเด็ก พึ่งกลับมาหาปีที่แล้ว เขาควรจะให้เงินแม่เราสำหรับการดูแลเลี้ยงเราในหลายๆปีที่ผ่านมา เขาก็ให้ค่ะ แต่ให้มานิดเดียว มันทำอะไรไม่หรอกค่ะ ทำไมเขาไม่คิดมั่งว่าการเลี้ยงดูลูกตั้งเเต่เล็กให้โตมาทุกวันนี้มันยากแค่ไหน มันใช้เงินมากแค่ไหน แต่เขากลับให้เงินมาแค่สองสามพันเอง เขาก็น่าจะเข้าใจบ้างเพราะย่าเองก็เลี้ยงพ่อมา แต่ทำไมถึงทำอย่างนี้

ข้างบน